สาระเด่น

ล้านสาระ

อาหาร

มาทำอาหารกันเหอะ

Business

วันเสาร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2559

ไก่รวนสมุนไพร‬

ไก่รวนสมุนไพร‬


ใครชอบสมุนไพรจานนี้ไม่ควรพลาดอย่างแน่นอน อร่อย ไม่แน่อาจจะเป็นเมนูประจำบ้านเลยก็ได้
ส่วนผสม
  1. 1.ปีกไก่กลาง ผ่าครึ่ง 400 กรัม
  2. 2.สมุนไพรโขลกละเอียด
  3. 3.ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
  4. 4.น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  5. 5.น้ำตาลทราย ½ ช้อนโต๊ะ
  6. 6.น้ำเปล่า 150 มล.
  7. 7.ใบมะกรูดฉีก 3-4 ใบ
  8. 8.พริกไทยอ่อน ปริมาณตามชอบ
ส่วนผสมสมุนไพร
  1. 1.พริกขี้หนูสีแดง 5-6 เม็ด
  2. 2.รากผักชี 2-3 ราก
  3. 3.กระเทียม 5-6 กลีบ
  4. 4.ตะไคร้ซอย 1 ต้น
  5. 5.ข่าหั่นเต๋า 1 ช้อนโต๊ะ 
*** ส่วนผสมและวิธีทำที่ให้ไว้ เป็นของจานนี้นะคะ ใครชอบรสไหน ปรับเพิ่ม-ลด ได้ตามความชอบเลย
วิธีทำ
  1. 1.โขลกพริกขี้หนูสีแดง รากผักชี กระเทียม ตะไคร้ซอย และข่าหั่นเต๋า ให้ละเอียดนะคะ เสร็จแล้วใส่ถ้วยพักไว้
  2. 2.นำปีกไก่กลางที่เราหั่นครึ่งไว้ มาหมักกับส่วนผสมที่เราโขลกไว้นะคะ ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม น้ำตาลทราย และน้ำปลา คลุกเคล้าส่วนผสมให้เข้ากัน
  3. 3.ใส่ใบมะกรูดฉีก พริกไทยอ่อน คลุกเค้าให้เข้ากัน เสร็จแล้วพักไว้ 30 นาที นะคะ
  4. 4.ตั้งกระทะ ไม่ต้องใส่น้ำมันนะคะพอกระทะเริ่มร้อน นำไก่ที่เราหมักไว้ใส่ลงไป แล้วตามด้วยน้ำเปล่านะคะ รวนไก่ไปเรื่อยๆจนน้ำงวด รวดให้แห้งเหลือน้ำไว้แบบขลุกขลิก นะคะ ระวังไหม้ด้วย เสร็จแล้วปิดแก๊สได้เลยค่ะ
  5. 5.จัดใส่จาน ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆอร่อย
วิ๊ทำทั้งหมด https://www.facebook.com/media/set/?set=a.1521872434786817.1073742022.1437521676555227&type=3

ปลาทอดสามรส‬

ปลาทอดสามรส‬


"ปลาทอดสามรส"‬ จะใช้ปลากระพง ปลานิล ปลาทับทิม ก็ได้ วันนี้ใช้ปลากระพงค่ะ ยังไงลองทำกันดูนะ

ส่วนผสม
  1. ปลากระพง 1 ตัว ( 600 กรัม ) จะใช้ปลานิล/ปลาทับทิม ก็ได้ค่ะ
  2. น้ำมะขามเปียก 6 ช้อนโต๊ะ
  3. น้ำตาลปี๊บ 5 ช้อนโต๊ะ
  4. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ + 2 ช้อนชา
  5. กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ
  6. พริกขี้หนูแดงสับ 2 ช้อนโต๊ะ 
  7. หอมใหญ่ หั่นเต๋า
  8. พริกสามสี หั่นเต๋า
  9. น้ำเปล่า 6 ช้อนโต๊ะ
  10. แป้งทอดกรอบ กะให้พอดีกับเนื้อปลานะคะ
  11. น้ำมันองุ่น


วิธีทำ
  1. นำปลากระพง มาขอดเกล็ด ควักไส้ ออกให้หมด แล้วล้างทำความสะอาด จากนั้นแล่เนื้อปลาออกทั้ง 2 ข้าง แล้วหั่นเป็นชิ้นๆ เสร็จแล้วพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ เก็บโครงปลาที่มี หัว ก้าง และหาง ไว้ทอดด้วยนะคะ
  2. นำเนื้อปลาที่หั่นเป็นชิ้นๆไว้ มาคลุกกับแป้งทอดกรอบให้ทั่วนะคะ คลุกแค่บางๆก็พอค่ะ
  3. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันองุ่นลงไป รอให้ร้อน ใช้ไฟลางนะคะ เอาโครงปลาลงทอด ทอดให้ปลาสุก ทั้งสองด้าน เสร็จแล้วตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน จากนั้นนำเนื้อปลาที่คลุกแป้งทอดกรอบไว้ลงทอด ใช้ไฟกลางนะคะ ทอดให้เนื้อปลาสุก เหลือง เสร็จแล้วตักขึ้น พักไว้ให้สะเด็ดน้ำมันค่ะ
  4. ทำน้ำซอส โดยตั้งกระทะ ใส่น้ำมันองุ่นลงไป 2 ช้อนโต๊ะ ตั้งไฟให้เดือด แล้วใส่กระเทียมสับและพริกขี้หนูแดงสับลงไปผัดให้หอม จากนั้น ใส่น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปิ๊บ น้ำปลา และน้ำเปล่าลงไป คนให้เข้ากัน แล้วตั้งไฟเดือด เคี่ยวน้ำซอสให้ข้นเหนียวเล็กน้อย 
  5. ใส่พริกหวาน 3 สี และหอมใหญ่ลงไป ผัดให้เข้ากันจนหอมใหญ่เริ่มใส จากนั้นนำปลาที่เราทอดเตรียมไว้ลงไป ผัดให้เข้ากันจนน้ำซอสเคลือบชินปลา เสร็จแล้วปิดแก๊สได้เลยค่ะ 
  6. จัดใส่จาน โดยนำโครงปลาที่ทอดไว้ มาวางบนจาน แล้วตักเนื้อปลาที่ผัดกับน้ำซอสเสร็จแล้ว ราดบนโครงปลาให้ทั่ว เว้นหัวกับหางไว้นะคะ แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อย พร้อมรับประทาน
วิธีการเพิ่มเติม https://www.facebook.com/media/set/?set=a.1528391450801582.1073742027.1437521676555227&type=3

เค้กแตงโม‬

เค้กแตงโม‬


เมนูผลไม้มาฝากค่ะ ช่วงนี้ร้อนมากๆ แตงโมคือผลไม้ที่นิยมกินกัน กินแต่แตงโมอย่างเดียวก็เบื่อ ว่ามั้ยค่ะ ลองมากินแตงโมแบบแอดดู อร่อย ชื่นใจ จริงๆค่ะ
ส่วนผสม
1.แตงโม
2.กีวี
3.แอปเปิ้ล
4.มะพร้าวขูดเป็นเส้น
5.บลูเบอรี่
6.น้ำผึ้ง
7.นมข้นหวาน
8.ช็อกโกแลต ท็อปปิ้ง
***ผลไม้ปรับตามที่ชอบ และที่มีเลยนะคะ
ลงมือทำกันค่ะ
1.นำแตงโมล้างให้สะอาดนะคะ เสร็จแล้วนำแตงโมมาหั่น ให้เป็นแว่น ความหนาประมาณ 1-2 นิ้ว จากนั้นหั่นแตงโมให้ได้ 8 ชิ้นนะคะ
2.นำแตงโมที่เราหั่นแล้วใส่จานไว้นะคะ แล้วทาน้ำผึ้งให้ทั่วเนื้อแตงโม
3.ตกแต่งหน้าแตงโม ด้วยผลไม้ที่เราเตรียมไว้นะคะ โรยมะพร้าวขูดลงไปให้ทั่ว ตามด้วยแอปเปิ้ล กีวี และบลูเบอรี่ เสร็จแล้วนำไปแช่เย็นไว้นะคะ
4.แช่เย็นแล้ว นำออกมา ราดด้วยนมข้นหวาน หรือ ช็อกโกแลต ท็อปปิ้ง แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ พร้อมรับประทาน

วิธีทำเพิ่มเติม https://www.facebook.com/media/set/?set=a.1531908270449900.1073742029.1437521676555227&type=3

วันศุกร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2558

ไส้อ่อนทอดกระเทียม

ไส้อ่อนทอดกระเทียม

ไส้อ่อนทอดกระเทียม

ไส้อ่อนทอดกระเทียม เมนูนี้ สำหรับคนที่ชอบเครื่องใน ไส้อ่อนไม่เหนียว ไม่ขมด้วยลองทำกันดู

ส่วนผสม
  1. 1.ไส้อ่อน 500 กรัม 
  2. 2.กระเทียม ยิ่งเยอะยิ่งอร่อยค่ะ 
  3. 3.น้ำปลา 1 ½ ช้อนโต๊ะ 
  4. 4.ซีอิ๊วขาว 1 ½ ช้อนโต๊ะ 
  5. 5.น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา 
  6. 6.พริกไทยป่น 1 ½ ช้อนโต๊ะ 
  7. 7.เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ 
  8. 8.แป้งข้าวเจ้า 1 ½ ช้อนโต๊ะ 
  9. 9.น้ำมันไว้สำหรับทอด



วิธีทำ
  1. 1. ไส้อ่อน นำไส้อ่อนที่ซื้อมา ล้างให้สะอาด เสร็จแล้วนำไปต้ม โดยต้มน้ำให้เดือดพล่าน แล้วเอาใส้อ่อนที่เราล้างไว้ลงไปต้มนะจ๊ะ และตอนต้มใส่เกลือลงไปด้วย ต้มประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วลองชิมดู ถ้ายังไม่พอใจอยากให้นิ่ม อีกก็ต้มไปเรื่อย ถ้าน้ำแห้งก็ใส่น้ำเพิ่มลงไปเลย เกลือไม่ต้องแล้ว 
  2. 2. เมื่อต้มไส้อ่อนเสร็จแล้ว เทน้ำทิ้ง พักไว้ให้เย็น ระหว่างรอ เรามาเตรียมกระเทียมกัน กระเทียมปอกเปลือกให้มีเปลือกเหลือติดอยู่บ้าง เสร็จแล้วนำไปตำ ไม่ต้องให้ละเอียดมาก เสร็จแล้วพักไว้ 
  3. 3. เมื่อไส้อ่อนที่ต้มไว้เย็นแล้ว นำมาหั่นให้เป็นชิ้นพอดีคำ นำไปใส่อ่างผสม แล้วปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาล ซีอิ๊วขาว พริกไทยป่น กระเทียมที่ตำเตรียมไว้ และคลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ 15 นาที ตอนหมักอย่าลืมชิมรสชาติ ขาดเหลือรสชาติไหนเพิ่มเติมได้ 
  4. 4. เมื่อหมักไส้ครบ 15 นาทีแล้ว นำแป้งข้าวเจ้ามาผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วเตรียมลงทอดเลย
  5. 5. ตั้งน้ำมันให้ร้อน นำไส้อ่อนที่ผสมแป้งแล้ว ลงทอด ต้องคอยคนด้วย กระเทียมที่สุกก่อนตักขึ้นเลย ทอดให้เหลืองกรอบ ก่อนตักขึ้นเร่งไฟแรงๆ เลย จะได้ไม่อมน้ำมัน เสร็จแล้วตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน จากนั้นจัดใส่จาน พร้อมรับประทานจะทานเปล่าๆ หรือ ทานคู่กับซอสก็อร่อย
ที่มา :: ทำเองอร่อยจัง By Tu Sureewan

สมุนไพรที่ใช้ในการรักษาอาการชา

สมุนไพรที่ใช้ในการรักษาอาการชา

สมุนไพรที่ใช้ในการรักษาอาการชา

ลูกยอ
ไม่สุกเกินไป ไม่แก่เกินไป

ขิงแก่
ปริมาณอย่างละครึ่งกิโลกรัม

ขิง
ล้างลำไส้

วิธีการทำ
หั่นลูกยอและขิงแก่บางๆ นำทั้งสองชนิดใส่หม้อต้มพร้อมกัน ใส่น้ำให้ท่วมเคี่ยวนาน 20 นาที ชิมรสชาตดู หากเข้มข้นเกินไปสามารถเติมน้ำเพิ่มได้

วิธีรับประทาน
ให้ดื่ม 1 แก้ว ก่อนอาหาร เช้า กลางวัน เย็น ต่อเนื่องนาน 1 เดือน และให้หยุดกิน

ข้อห้าม
ผู้ป่วยที่มีภาวะไตวาย ห้ามใช้สูตรนี้

นอกจากการกินตามสูตรนี้แล้ว ควรมีการดูแลสุขภาพในด้านการรับประทานอาหารร่วมด้วย เพื่อไม่ให้อาการดังกล่าวกลับมาเป็นซ้ำอีก โดยควรลดอาการจำพวกของทอดของมัน และอาหารที่มีรสหวาน

ข้อมูลจาก หมอชิตชัย ตันเจริญ, นพดล อุ่นตา

สูตรเมนู หมูกระจก

สูตรเมนู หมูกระจก

หมูกระจก

ส่วนผสม
  1. หมูสามชั้นสไลด์ 300 กรัม
  2. ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
  3. ผงปรุงรส 1 ช้อนชา
  4. น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ
  5. พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
  6. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  7. แป้งสาลีเอนกประสงค์ (ตราว่าว) 2 1/2 ช้อนโต๊ะ
  8. น้ำเปล่า
  9. น้ำมันปาล์มสำหรับทอด



วิธีทำ
  1. 1.นำหมูสามชั้นสไลด์หั่นชิ้นตามชอบ มาหมักกับ ซีอิ้วขาว ผงปรุงรส น้ำตาลทราย และพริกไทยป่น คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วหมักทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงหรือหมักทิ้งไว้ข้ามคืนก็ยิ่งดี 
  2. เอาน้ำใส่หม้อยกขึ้นตั้งไฟ พอน้ำเดือดใส่หมูสามชั้นหมักลงไปต้มประมาณ 20 นาที เสร็จแล้วตักขึ้นพักไว้บนตะแกรง นำหมูที่ได้ไปตากแดดให้แห้ง 
  3. ละลายแป้งสาลีกับน้ำเปล่า ตอกไข่ไก่ใส่ลงไป ตีให้เป็นเนื้อเดียวกัน 
  4. ตั้งกระทะใส่น้ำมันปาล์มลงไป พอน้ำมันร้อน นำหมูสามชั้นที่ตากแดดแล้วลงไปคลุกกับส่วนผสมของแป้งและไข่ แล้วเอาลงไปทอดในกระทะ 
  5. ทอดหมูจนเหลืองกรอบตักขึ้นพักไว้บนกระดาษซับมันจากนั้นจัดใส่จานเสิร์ฟพร้อมกับซอสพริกหรือจะทานกับส้มตำก็อร่อยเด็ดเหมือนกันค่ะ
ที่มา ::  Cooking Easy


เครื่องดื่มลดร้อน ช่วยตับและน้ำดีทำงานอย่างสมดุล

เครื่องดื่มลดร้อน ช่วยตับและน้ำดีทำงานอย่างสมดุล

เครื่องดื่มลดร้อน ช่วยตับและน้ำดีทำงานอย่างสมดุล

ใบบัวบก ช่วยแก้ร้อนในกระหายน้ำลดร้อนได้ดี แต่เด็กวัยรุ่นยี้ เพราะติดรสขม แต่ถ้าเป็นผู้ใหญ่หน่อยมักชอบใจในรสชาติ เติมแต่งความหวานด้วยน้ำตาลกรวด หรือน้ำตาลทรายแดงรสชาติจะหอม หรือเพิ่มความหอมโดยใช้ใบเตยปรุงแต่งกลิ่นเสริมรสได้ อาจทำเป็นน้ำปั่น เอาบัวบกและใบเตยปั่นรวมกันแล้วกรองเอาแต่น้ำ ใบเตยควรเลือกเตยหอม เพราะมีสรรพคุณช่วยแก้อ่อนเพลีย ดับพิษไข้ และชูกำลัง เครื่องดื่มแก้วนี้ลดร้อนและบำรุงหัวใจได้ด้วย เครื่องดื่มลดร้อนอีกสูตร แนะดอกเก๊กฮวยกับลูกพุดจีน เป็นเครื่องดื่มที่หอมรสชาติดี มีสีเหลือง และช่วยบำรุงตับและน้ำดี ช่วยไม่ให้ร้อนตับแลบ ลดความร้อนตับแบบตับจะแตกได้ดีมาก

ดอกเก๊กฮวย ก็จัดว่าเป็นสมุนไพรขึ้นชื่อลดร้อน แก้ร้อนใน กระหายน้ำที่เรารู้จักกันแพร่หลาย นิยมชมชอบตั้งแต่เด็กถึงผู้ใหญ่ เก๊กฮวยมีฤทธิ์เย็น ช่วยขับพิษร้อน ขับพิษร้อน ขับลม ขับเหงื่อ แก้ร้อนใน เก๊กฮวยที่เรารู้จักมี 3 ชนิด คือ เก๊กฮวยดอกสีขาว จะมีรสหวาน ใช้แก้ร้อนในไม่ค่อยดี แต่ช่วยรักษาความสมดุลและการทำงานของตับได้ดี บำรุงสายตา ตำรายาจีน ใช้เก๊กฮวยขาวเป็นตัวยาหลักที่ใช้ในการรักษาโรคที่เกี่ยวกับสายตา เวลาที่เราใช้สายตามากเกินไปดวงตาจะอ่อนล้า จึงใช้แก้ความอ่อนล้าและบำรุงสายตาได้ดี เก๊กฮวยดอกสีเหลือง รสจะออกขม และระบายความร้อนในร่างกายได้ดีกว่า นิยมใช้แก้ร้อนใน ตำราจีนจึงใช้เป็นส่วนผสมในยาที่ใช้แก้อาการหวัดที่เกิดจากลมร้อน หรือที่แพทย์แผนปัจจุบันเรียกว่าอาการหวัดที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย อาการหวัดที่เกิดจากลมร้อนนั้น ได้แก่ อาการไอ มีเสมหะสีเหลือง ไข้ขึ้นสูงและเจ็บคอ



ใครที่มีอาการดังกล่าวสามารถนำเก๊กฮวยมาต้มเพื่อดื่มบรรเทาได้ เก๊กฮวยป่า จะมีสีเหลือง เหมาะสำหรับชงแบบชา มีคุณสมบัติช่วยขับลม รักษาอาการปากแห้ง ร้อนใน นัยน์ตาแห้ง หรือมีอาการเจ็บปวดหรือชาตามร่างกายเนื่องมาจากลม ความเย็นและความชื้น
จากการวิจัยทางการแพทย์พบว่า ดอก ใบ และก้านดอกเก๊กฮวยมีสารประกอบสำคัญ อันได้แก่ น้ำมันหอมระเหย น้ำตาลกลูโคส กรดอะมิโน วิตามินเอและวิตามินบี เป็นต้น และมีส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคหลากหลายชนิดในร่างกายมนุษย์ ขณะเดียวกัน ยังปรับสมดุลและลดความดันโลหิตในร่างกาย ช่วยขยายหลอดเลือด และเพิ่มปริมาณเลือดในเส้นโลหิต ลดอัตราการเต้นของหัวใจ และมีบทบาทในการป้องกันลิ่มเลือดและอาการขาดเลือดในเส้นเลือดสมองและหัวใจ

ลูกพุดจีน เป็นสมุนไพรที่ใช้สารสีเหลือง เป็นสมุนไพรรสขม เย็น มีฤทธิ์ขับความร้อน แก้หงุดหงิด (ความร้อนจากหัวใจ ทำให้หงุดหงิดและกระวนกระวาย) แก้ไข้ ระบายความร้อนในร่างกาย แก้ดีซ่าน บรรเทาอาการอักเสบ ทำให้เลือดเย็น แก้เลือดกำเดาไหล แก้ปัสสาวะเป็นเลือด แก้อาเจียนเป็นเลือด จัดเป็นยาสมุนไพรที่ช่วยในการปรับสมดุลในร่างกายได้ดี นำดอกเก๊กฮวยแช่น้ำให้นุ่ม แล้วจึงบีบเอาน้ำไปต้มให้เดือด เติมลูกพุดจีนลงไป พร้อมน้ำตาลทรายแดงหรือน้ำตาลกรวด ยกลงจากเตา รอให้เย็นแล้วกรองเอาน้ำใช้ดื่ม จะได้เครื่องดื่มลดร้อนที่ดีต่อสุขภาพ ช่วยให้สดชื่นไปตลอดหน้าร้อนนี้เลย
 
Back To Top